ความสนุกเริ่มต้นที่นี่
banner
image

เชียงใหม่ : มนต์เสน่ห์แห่งล้านนา

เชียงใหม่ : มนต์เสน่ห์แห่งล้านนา

June 28, 2020 | by Giant GOGO

 

เชียงใหม่ : มนต์เสน่ห์แห่งล้านนา

By “ลุงปั๊บยังไหว”: 28 มิถุนายน 2563

หากจะกล่าวถึงดินแดนภาคเหนือของประเทศที่ได้ชื่อว่าล้านนานั้น ในอดีตเคยมีหัวเมืองในความปกครองที่มีคำขึ้นต้นว่า “เชียง” อยู่ถึง 5 เมือง อันได้แก่เชียงราย เชียงใหม่ เชียงทอง เชียงตุงและเชียงรุ่ง ซึ่งรวมเรียกว่า “เมือง 5 เชียง” หัวเมืองต่าง ๆ เหล่านี้ล้วนแล้วเคยมีกษัตริย์ปกครองอย่างยิ่งใหญ่ ทว่าภายหลังการเข้ารุกรานของประเทศมหาอำนาจจึงเป็นสาเหตุที่ทำให้หัวเมืองล้านนาจำต้องถูกแบ่งแยกออก อาณาจักรล้านนานั้นเคยตกเป็นของพม่าในปี พ.ศ.2101 จนเข้าสู่ยุคสมัยสมเด็จพระนเรศวรมหาราช อาณาจักรล้านนาจึงกลับมาขึ้นต่อกรุงศรีอยุธยาอีกครั้ง

เชียงใหม่เป็นเมืองเก่าแก่และมีประวัติการสร้างอันน่าภาคภูมิใจ กษัตริย์ผู้ทรงสร้างนครเชียงใหม่คือ “พญามังรายมหาราช” (พ่อขุนเม็งรายมหาราช) พระองค์ทรงรวบรวมบ้านเล็กเมืองน้อยบนแผ่นดินล้านนาไทย รวมเป็นอาณาจักรล้านนาไทยอันกว้างใหญ่ไพศาล จนกระทั่งในปี พ.ศ.1834 ทรงดำริที่จะสร้างเมืองใหม่ขึ้นอีกแห่งหนึ่งเพื่อเป็นศูนย์กลางของล้านนาไทย ในการสร้างเมืองใหม่นั้น พญามังรายได้ทูลเชิญ พญาร่วงแห่งอาณาจักรสุโขทัยและพญางำเมืองแห่งเมืองพะเยา พระสหายร่วมน้ำสาบาน ให้มาช่วยพิจารณาทำเลที่จะสร้างเมืองใหม่ กษัตริย์ทั้งสามพระองค์ทรงเห็นที่ราบอันอุดมสมบูรณ์ริมฝั่งแม่น้ำปิง บริเวณป่าเชิงดอยสุเทพเป็นที่ราบกว้างใหญ่ อยู่ในเทือกเขาสลับซับซ้อน เหมาะที่จะสร้างเมืองหลวงขึ้นเป็นอย่างยิ่ง พญาร่วงทรงมีพระราชดำรัสว่า “เมืองนี้ข้าศึกจะเบียดเบียนมิได้ คนไหนมีเงินพันมาอยู่จะมีเงินหมื่น ครั้นมีเงินหมื่นมาอยู่จะมีเงินแสน” ซึ่งแสดงให้เห็นถึงสภาพทางยุทธการและเศรษฐกิจของเมืองเชียงใหม่เป็นอย่างดี เมื่อกษัตริย์ทั้งสามพระองค์ทรงปรึกษาหารือกันแล้ว พญามังรายจึงได้ตกลงพระทัยที่สร้างเมืองใหม่ขึ้นมา ณ ที่ราบเชิงดอยสุเทพแห่งนี้ โดยสร้างกำแพงเมืองด้านกว้าง 800 วา ด้านยาว 1,000 วา มาบรรจบเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า กษัตริย์ทั้งสามพระองค์ทรงขนานนามเมืองนี้ว่า “นพบุรีศรีนครพิงค์เชียงใหม่”

เชียงใหม่จากอดีตจนถึงวันนี้ผ่านมาเป็นเวลา 724 ปีแล้ว ประวัติศาสตร์อันยาวนานได้ถูกถ่ายทอดกันมาจากรุ่นสู่รุ่นจวบจนถึงปัจจุบัน ความรุ่งเรื่องในอดีต ยังผลให้เกิดความเจริญในด้านต่างๆตามมา ทั้งขนบธรรมเนียมประเพณี ศิลปะวัฒนธรรม เป็นมรดกตกทอดที่ให้เราได้เห็นผ่านสถาปัตยกรรม โบราณสถาน ศิลปกรรม วิถีชีวิตความเป็นอยู่ อาหาร เครื่องนุ่งห่ม และอื่นๆอีกมากมาย ซึ่งถ้าหากท่านได้มีโอกาสเดินทางท่องเที่ยวที่เชียงใหม่ ท่านจะได้สัมผัสกลิ่นอายของอารยธรรมความเจริญรุ่งเรืองของชาวล้านนาในอดีต ซึ่งยังมีให้พบเห็นอยู่ทั่วไป

ความเจริญรุ่งเรืองของเมืองเชียงใหม่ที่ทุกท่านได้เห็นในปัจจุบัน หากย้อนกลับเมื่อ 60 ที่ผ่านมา ลุงปั๊บ อดไม่ได้ที่กล่าวว่า จุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลงอันนำมาซึ่งความเจริญรุ่งเรืองที่เปลี่ยนไป เกิดขึ้นจากการที่พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร (รัชกาลที่ 9) ได้ทรงเดินทางเสด็จไปยังเชียงใหม่ในปี พ.ศ 2501 ท่านทรงเล็งเห็นถึงความเดือดร้อนของชาวบ้าน จากสภาพป่าไม้เสื่อมโทรม จึงมีพระราชหฤทัยมุ่งมั่นที่จะพลิกฟื้นผืนป่า ให้อุดมสมบูรณ์อย่างยั่งยืน ด้วยความวิริยะอุตสาหะของพระองค์ท่าน ผืนป่าก็กลับมาอุดมสมบูรณ์อีกครั้ง ท่านได้วางรากฐานตามแนวพระราชดำริผ่านโครงการต่างๆ ส่งเสริมสร้างอาชีพให้คนในท้องถิ่น ให้มีอาชีพทำกิน จนทำให้คนในท้องมีรายได้และคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น

หากท่านได้มีโอกาสมาเที่ยวที่เชียงใหม่อีกครั้ง ลุงปั๊บ อยากจะขอเชิญชวนท่านเดินทางตามรอยพ่อหลวง ท่องเที่ยวโครงการพระราชดำริ เพื่อสัมผัสวิถีแห่งความพอเพียง เพื่อความสุขที่ยั่งยืนสืบไป…